แก้วมังกร ภาษาอังกฤษชาวเอเชียเรามักนิยมเรียกกันว่า Dragon fruit แต่สำหรับต่างประเทศในแถบยุโรปนั้นจะใช้คำว่า Pitaya ส่วนแก้วมังกร ชื่อวิทยาศาสตร์เราจะเรียกว่า Hylocereus undatus (Haw) Britt. Rose.
แก้วมังกร มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง นำเข้ามาในทวีปเอเชียที่ประเทศเวียดนามก่อนเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว จัดเป็นไม้ในตระกูลกระบองเพชร สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แต่แหล่งเพาะปลูกที่สำจะอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี สระบุรีและสมุทรสงคราม ซึ่งผลผลิตมากในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษศจิกายน โดยเป็นผลไม้ที่มีรูปร่างกลมรี เปลือกมีสีแดง เมื่อผ่าครึ่งจะเห็นเนื้อเป็นสีขาวหรือแดงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้นๆ มีเมล็ดคล้ายเมล็ดแมงลักฝังอยู่ทั่วผล โดยแก้วมังกรจะมีสายพันธุ์ดังนี้คือ แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดงที่จะให้รสชาติหวานนิดๆ อมเปรี้ยวหน่อยๆ แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกเหลืองให้รสชาติออกหวาน และแก้วมังกรพันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดงที่มีรสชาติหวานกว่าพันธุ์อื่นๆ โดยวิธีการรับประทานก็รับประทานเหมือนแตงโม นำมาผ่าคลึ่งแล้วใช้ช้อนตักรับประทานได้เลย
แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด อย่างเช่น วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น ถ้ารับประทานแก้วมังกร 1 ลูก น้ำหนัก 100 กรัม ร่างกายจะได้ คาร์โบไฮเดรต 12.4 กรัม โปรตีน 1.4 กรัม ฟอสฟอรัส 32 มิลลิกรัม แคลเซียม 9 มิลลิกรัม วิตามินซี 7 มิลลิกรัม พลังงาน 66 กิโลแคลอรี่ และใยอาหาร 2.6 กรัม และสารอื่นๆอีกด้วย แก้วมังกรเลยถูกจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพของคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามอีกด้วย
แก้วมังกรลดความอ้วนได้จริงหรือ? ได้แน่นอนเพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว และแก้วมังกรมีแคลอรี่ต่ำเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดีและเป็นผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ ทานแล้วอิ่มท้องนาน เรียกได้ว่าสามารถรับประทานแทนอาหารหนึ่งมื้อได้เลย แม้จะทานเยอะแค่ไหนก็ไม่ทำให้อ้วน แถมช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใสดูมีน้ำมีนวลอีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรรับประทานอย่างพอประมาณหรือวันละไม่เกิน 1 ลูก ถ้าจะให้ดีในทุกๆวันไม่ควรรับประทานผลไม้เดิมๆซ้ำๆติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างหลากหลาย เพื่อที่จะได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่ โดยการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสตามหลักโภชนาการนั้นควรรับประทานผลไม้ให้ได้วันละ 3-5 ส่วนนั่นเอง
ประโยชน์ของแก้วมังกร
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น
- เป็นผลไม้ที่ช่วยดับร้อน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง
- แก้วมังกรลดน้ำหนักและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นผลไม้ตัวช่วยในเรื่องการลดความอ้วนเนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา และริ้วรอยต่างๆ
- มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ
- มีส่วนในการช่วยรักษาโรคเบาหวาน
- ช่วยบรรเทาอาการโรคความดันโลหิตได้
- มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคโลหิตจาง
- มีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรี
- ช่วยดูดซับสารพิษต่างๆออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างอย่างตะกั่ว ที่มาจากควันท่อไอเสีย หรือสารตกค้างที่มาจากยาฆ่าแมลง
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของคุณให้แข็งแรง
- มีกากใยสูงช่วยในการขับถ่ายให้สะดวก แก้อาการท้องผูก
- ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แก้ปัญหาการขับถ่ายต่างๆให้ดีขึ้น
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- นิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้สด
- ใช้เป็นส่วนผสมในฟรุตสลัดและน้ำปั่นผลไม้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น